1. โยเกิร์ต
อาหารอย่างแรกที่กินกลางคืนได้ไม่ต้องกลัวอ้วนลำดับที่ 1 คือเจ้านี่เลยค่ะ “ โยเกิร์ต ” !
คงมีบางคนเคยได้ยินว่า “ตอนกลางคืนให้กินโยเกิร์ต” ( รสธรรมชาติ ไขมันต่ำ น้ำตาลน้อยเท่านั้นนะ ไม่ใช่รสที่ใส่ผลไม้เชื่อมรัวๆ จนพลังงานเท่าข้าวเป็นจานๆ ) เพราะพลังงานต่ำ อิ่มท้องไปได้ทั้งคืน โดยแนะนำให้กินแบบ" อุ่นๆ " เพราะทำให้สบายท้อง ยิ่งถ้ากินช่วงอากาศหนาว ยิ่งฟิน!
ข้อดีของโยเกิร์ตคือมี " แคลเซียม " ในปริมาณสูงมากเพราะทำมาจากนม เมื่อกินโยเกิร์ตเข้าไป เจ้าแคลเซียมจะไปเกาะกับไขมันที่สะสมไว้ในร่างกาย จากนั้นก็จะถูกขับออกมาจากร่างกายในตอนเช้าวันรุ่งขึ้นได้ง่าย ทำให้เราไม่ท้องผูกไงล่ะคะ
คงมีบางคนเคยได้ยินว่า “ตอนกลางคืนให้กินโยเกิร์ต” ( รสธรรมชาติ ไขมันต่ำ น้ำตาลน้อยเท่านั้นนะ ไม่ใช่รสที่ใส่ผลไม้เชื่อมรัวๆ จนพลังงานเท่าข้าวเป็นจานๆ ) เพราะพลังงานต่ำ อิ่มท้องไปได้ทั้งคืน โดยแนะนำให้กินแบบ" อุ่นๆ " เพราะทำให้สบายท้อง ยิ่งถ้ากินช่วงอากาศหนาว ยิ่งฟิน!
ข้อดีของโยเกิร์ตคือมี " แคลเซียม " ในปริมาณสูงมากเพราะทำมาจากนม เมื่อกินโยเกิร์ตเข้าไป เจ้าแคลเซียมจะไปเกาะกับไขมันที่สะสมไว้ในร่างกาย จากนั้นก็จะถูกขับออกมาจากร่างกายในตอนเช้าวันรุ่งขึ้นได้ง่าย ทำให้เราไม่ท้องผูกไงล่ะคะ
เหตุผลที่ต้องกล่าวถึงอาการ " ท้องผูก " หรือถ่ายไม่ออกเพราะอาการนี้เป็นศัตรูตัวฉกาจของการลดน้ำหนักค่ะ หากเรากินน้อยแต่ไม่ถ่ายจะทำให้ระบบร่างกายรวน ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบเผาผลาญได้ด้วย จึงมีคำกล่าวที่ว่า" ควรขับถ่ายทุกเช้าหลังตื่นนอน " ไงล่ะคะ
2. ไข่ต้ม
ไข่ต้มเป็นอาหารที่ทำง่ายมาก แค่นำไปต้มเท่านั้น แต่กลับมีสารอาหารเยอะมาก เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารเช่นโปรตีน แคลเซียม วิตามินและแร่ธาตุค่ะ
ตามปกติแล้ว ผู้ใหญ่ที่ไม่มีโรคความดันโลหิตสูง, โรคอ้วน, ไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือดสูง สามารถกินไข่ต้มได้ประมาณ 3-5 ฟองค่ะ ( แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่ควรกินไข่แดงเยอะเกินไปนะคะ เน้นไข่ขาวจะดีกว่า เพราะมีแต่โปรตีนล้วนๆ ไม่มีไขมัน )
ไข่ต้มเป็นหนึ่งในอาหารที่เหมาะที่จะกินเวลา " เย็นหรือกลางดึก " เพราะช่วงที่เธอท้องว่างๆ เมื่อกินไข่ต้มเข้าไปจะอิ่มได้ทันที ต่างจากขนมถุงกรุบกรอบที่พลังงานสูง อ้วนง่ายแต่กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มสักที และยังได้สารอาหารดีๆ
3. กล้วย
และแล้วก็มาถึงลำดับสุดท้ายแล้ว! นั่นคือ “ กล้วย ” นั่นเอง ! ( แนะนำให้เป็นกล้วยหอมนะคะ เพราะกล้วยน้ำว้ามีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง กินเยอะอาจอ้วนได้ )
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ฮิตการลดน้ำหนักที่เรียกว่า " บานาน่าไดเอต ( Banana Diet ) " ที่นิยมแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่นและมาถึงประเทศไทยด้วย มีหนังสือตีพิมพ์ออกมาเผยแพร่เคล็ดลับการกินกล้วยให้ผอมด้วยการ " กินกล้วยอย่างเดียวในมื้อเช้า " ต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ
โดยหลังตื่นนอนให้ดื่มน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว รอ 20-30 นาทีแล้วกินกล้วยกี่ใบก็ได้ให้อิ่ม ถ้าไม่อิ่มสามารถกินอาหารอย่างอื่นต่อได้ มีผู้สนใจทำตามสูตรนี้และน้ำหนักลดลงหลายคนเลยล่ะค่ะ
กล้วยเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่มากมายทั้งธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี6 วิตามินบี12 และวิตามินซี ทำให้สมองปลอดโปร่ง มีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดอาการหงุดหงิดช่วงมีประจำเดือน และช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล ทำให้ไม่กินจุกจิกอีกด้วยล่ะค่ะ
ยิ่งนำกล้วยไปผ่านความร้อน ประโยชน์ก็ยิ่งสูงมากขึ้น เพราะความร้อนเพิ่มการทำงานให้ " โอลิโกแซ็กคาไรด์ " ที่มีอยู่ในกล้วย ส่งผลต่อการทำงานของลำไส้ทำให้ไม่มีอาการท้องผูก
กล้วยที่ผ่านความร้อนมาแล้วยังมีรสหวานกว่าปกติ ทำให้เหมาะกับตอนที่ร่างกายต้องการของหวานๆ ขึ้นมาในระหว่างลดน้ำหนักค่ะ
CREDIT : http://sistacafe.com
ยิ่งนำกล้วยไปผ่านความร้อน ประโยชน์ก็ยิ่งสูงมากขึ้น เพราะความร้อนเพิ่มการทำงานให้ " โอลิโกแซ็กคาไรด์ " ที่มีอยู่ในกล้วย ส่งผลต่อการทำงานของลำไส้ทำให้ไม่มีอาการท้องผูก
กล้วยที่ผ่านความร้อนมาแล้วยังมีรสหวานกว่าปกติ ทำให้เหมาะกับตอนที่ร่างกายต้องการของหวานๆ ขึ้นมาในระหว่างลดน้ำหนักค่ะ
CREDIT : http://sistacafe.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น