วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ผลกระทบอันตรายจากการรับประทานอาหารขยะ



       เวลาพูดคำว่าอาหารขยะ สาวๆ หลายคนก็คงจะนึกออกว่ามันเป็นยังไง แต่ถามว่ารูปร่างหน้าตาอาหารขยะเหล่านั้น มันน่ารังเกียจ น่ากลัวเหมือนชื่อมั่ย ตอบแทนเลยละกันนะคะ ว่า ไม่ แถมยังดูน่ากิน นึกถึงรสชาติแล้ว อุ่ย น้ำลายจิไหล มันอร่อยอ่าาา คิดแบบเดียวกันอยู่ใช่มั้ยล่ะคะ 
           แต่ภายใต้รูปลักษณ์ที่ชวนให้ลิ้มลองนั้น จะมีสาวๆ สักกี่คนกันบ้างที่ตระหนักและรู้ว่ามัน อันตราย " ขนาดไหน เราไปเรียนรู้ความเจ็บปวดไปพร้อมๆ กันเลยค่าาา









1.เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาความจำและการเรียนรู้

จากการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2011 ให้กลุ่มบุคคลผู้ที่ได้รับการตรวจแล้วว่าเป็นคนที่มีสุขภาพดี ได้ลองกินอาหาร Junk Food เป็นเวลาติดต่อกัน 5 วัน และได้มีการทดสอบและผลที่ได้ออกมา มันน่ากลัวมากเพราะเวลาเพียงแค่ 5 วัน ผลการทดสอบองค์ความรู้รวมของผู้คนเหล่านั้นแย่มาก ไม่ว่าจะเป็นในด้านความสนใจ ความรวดเร็วและอารมณ์ เพียงในเวลาแค่นั้นเจ้าพวกอาหารขยะก็สามารถเข้าไปทำให้ความจำเสื่อมถอยลงไปได้ 
อาหารใดๆ ก็ตามที่มีน้ำตาลและไขมันสูง จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมในสมอง โดยเฉพาะในส่วนการเรียนรู้และความจำ ยิ่งกินมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากเท่านั้น




2. เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะสมองเสื่อม

            มีฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่คิดว่าหลายคนคงเคยได้ยิน ชื่อว่า อินซูลิน เจ้าตัวนี้มันจะช่วยสื่อสารระหว่างเซลล์เส้นประสาทและการก่อตัวของการจดจำ และมีการวิจัยบอกว่า เมื่อเรากินอาหารที่มีไขมัน แป้ง และความหวานที่สูงจนเกินไป นั่นจะเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้อินซูลินในร่างกายของเราสูงขึ้นเพื่อทำหน้าที่จัดการปริมาณน้ำตาลในเลือดอินซูลินในร่างกายสูงแล้วทำไมเหรอ? เหตุผลก็เพราะว่า ถ้าระดับของอินซูลินสูง สมองก็จะหยุดการตอบรับฮอร์โมนนี้และกลายเป็นการต่อต้านการทำงานของอินซูลินแทน เอาล้าววว เริ่มไม่ดีแล้วสิ ใช่แล้วค่ะ เพราะอะไร ก็เพราะว่า การต่อต้านนี้จะไปจำกัดความสามารถในการคิดของเรา การเรียกคืน หรือ สร้างความสร้างความทรงจำ ซึ่งนี้เสี่ยงมากต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อม บรึยยย คิดดูนะ นั่งๆ กินอยู่ แล้วจู่ๆ เกิดจำอะไรไม่ได้ซะยังงั้น แล้วเราจะรู้สึกยังไง?



3. Overeating กินแหลก ไม่มียั้ง

           การบริโภคอาหารที่มี Trans fats มากเกินไป ( อธิบาย Trans fats อย่างง่ายๆ คือเราจะพบมันได้ตามพวกอาหารทอดๆ หรือขนมอบต่างๆ ชัดเลยเนอะ กินกันอยู่ทุกวันเลยเนอะ ) เจ้าไขมันตัวนี้จะส่งสัญญาณไปที่สมองถึงกระบวนการการกินอาหารและความหิวที่ยากที่จะควบคุม  และสุดท้ายเราก็จะจบด้วยการกิน กิน กิน เข้าไปอย่างหยุดไม่อยู่ ( overeating )
ซึ่งโดยปกติแล้ว สมองที่มีสุขภาพดี ( ก็คือสมองที่ไม่ถูกครอบงำไปด้วยอาหารขยะ ) จะต้องการกรดไขมันที่จำเป็นๆ อย่าง โอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 สวยๆ แต่เมื่อใดที่ขาดสารอาหารสองสิ่งนี้ไป ก็งานเข้าแล้วค่ะ เพราะสาวๆ จะเสี่ยงต่อโรคสมาธิสั้น ภาวะสมองเสื่อม ไบโพรล่าและปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวกับสมอง



4. สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีที่นำไปสู่โรคซึมเศร้า

        การกินอาหารที่มีน้ำตาล และ ไขมัน สูงๆ จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกิจกรรมของสารเคมีในสมองที่จะเกิดขึ้นแต่ละประเภทอาหาร และยังบอกอีกว่าผู้คนที่ตัดสินใจเลิกกินอาหารขยะ จะมีอาการทนทุกข์จากการที่ไม่ได้กิน
อาหารเหล่านั้น เพราะจากแต่ก่อนที่เคยกินมันมาอย่างต่อเนื่อง เหมือนติดยาเลยอ่ะ 
ซึ่งอาการของการถอนตัวจากอาหารขยะเหล่านี้ จะส่งผลต่อการขาดความสามารถในการจัดการกับความเครียด ( แหงล่ะ แค่เรื่องไม่กินอาหารพวกนี้ยังเป็นทุกข์ นับประสาอะไรจะไปจัดการเรื่องอื่น ) ซึ่งนั้นจะทำให้สาวๆ เกิดภาวะความซึมเศร้า จนบางครั้งสาวๆอาจจะใจอ่อนหันกลับไปกินอาหารเหล่านั้นอีกครั้ง เพื่อที่จะจัดการกับสภาวะที่ไม่น่าพอใจนี้ 





5. ควบคุมความอยากอาหารได้ยากมากขึ้น จนบางครั้งก็ห้ามไม่ได้!

        การกินคัพเค้กหวานๆ หรือแม้แต่โดนัทชิ้นโตๆ มันจะส่งผลต่อระดับน้ำตาลที่จะช่วยให้สาวๆ รู้สึกมีความสุข พออกพอใจ แต่เมื่อเรากลับมาสู่ปกติ ความแปรปรวนของร่างกายกลับมีเพิ่มมากขึ้น
อาหาร Fast Food มักเต็มไปด้วยคาร์โบไฮเดรต ซึ่งเป็นสาเหตุของระดับน้ำตาลในเลือดที่มีการผันผวนอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าน้ำตาลต่ำเกินไป มันก็เป็นสาเหตุของความวิตกกังวล รู้สึกสับสน และเหนื่อยล้า เห็นมะ ทุกอย่าง ควรพอดีๆ ไม่มากเกินไป น้อยเกินไป 
แต่ในกรณีที่น้ำตาลและไขมันที่สูง สาวๆ มีแนวโน้มที่จะกินเร็ว และ มาก! ตามที่ตัวเองพอใจ  ซึ่งไม่เพียงแค่เรื่องการกินนะ พฤติกรรมความไม่อดทน กระวนกระวายนี้ ยังเกี่ยวข้องไปกับสิ่งอื่นๆด้วย  อย่างงี้เค้าเรียกว่า ไปกันใหญ่แล้วว







ขอบคุณข้อมูลจาก : http://sistacafe.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น