วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2559

10 เมนูควรเลี่ยงช่วงหน้าร้อน เสี่ยงต่อโรคทางเดินอาหาร



กรมควบคุมโรคเตือนประชาชนเลือกกินอาหารในช่วงร้อนนี้ แนะกินอาหารที่ปรุงสุก ห้ามกินของสุก ๆ ดิบ ๆ พร้อมเปิดรายชื่อ 10 เมนูเสี่ยงต่อโรคทางเดินอาหาร

                   วันที่ 8 เมษายน 2558 นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) เผยว่า ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์นี้ ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางออกต่างจังหวัด อาจทำให้พ่อค้า-แม่ค้า มีการกักตุนอาหารหรือเตรียมอาหารไว้เพื่อขายในช่วงสงกรานต์ แต่เนื่องด้วยช่วงนี้สภาพอากาศร้อนจัดอาจทำให้อาหารบูด-เสียได้ง่าย 



                   โดยจากข้อมูลรายงานการเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา คร. ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม-29 มีนาคม 2558 ทั่วประเทศพบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษ 30,259 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต และผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วง 247,212 ราย เสียชีวิต 3 ราย ที่ผ่านตลอดทั้งปี 2557 พบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษ 134,516 ราย เสียชีวิต 1 ราย และพบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วง 1,106,900 ราย เสียชีวิต 8 ราย 

                   ดังนั้นในช่วงหยุดฉลองเทศกาลสงกรานต์ 11-15 เมษายน 2558 นี้ ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการรับประทานอาหารและน้ำดื่ม ทั้งที่ปรุงเองที่บ้าน สั่งซื้อ หรือออกไปรับประทานอาหารตามร้าน ควรรับประทานอาหารเฉพาะที่ปรุงสุกใหม่ อาหารทะเลก็ขอให้ปรุงสุก หลีกเลี่ยงการปรุงโดยวิธีลวกหรือพล่าสุก ๆ ดิบ ๆ ส่วนอาหารประเภทเนื้อสัตว์ หมู ไก่ และไข่ ควรปรุงให้สุกก่อนรับประทานทุกครั้ง ไม่รับประทานแบบสุก ๆ ดิบ ๆ นอกจากนี้อาหารถุง อาหารกล่อง ควรแยกกับข้าวออกจากข้าว และควรรับประทานภายใน 2- 4 ชั่วโมงหลังจากปรุงเสร็จ





                   สำหรับเมนูอาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคทางเดินอาหาร มีดังนี้

                   ลาบ/ก้อยดิบ 
                   ยำกุ้งเต้น 
                   ยำหอยแครง 
                   ข้าวผัดโรยหน้าเนื้อปู 
                   อาหารหรือขนมที่มีส่วนประกอบของกะทิ
                   ขนมจีน 
                   ข้าวมันไก่ 
                   ส้มตำ 
                   สลัดผัก 
                   น้ำแข็งที่ไม่ได้มาตรฐาน



ทั้งนี้สำหรับผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษและอุจจาระร่วงจะมีอาการอาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลวบ่อยครั้ง อาจมีไข้ สำหรับการดูแลในเบื้องต้น ให้ดื่มน้ำเกลือแร่ เพื่อซ่อมแซมการเสียน้ำ แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นให้ไปพบแพทย์ใกล้บ้าน

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://health.kapook.com/view116615.html

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559

ท่าออกกำลังกายลดหน้าท้อง เพื่อหน้าท้องที่แบนราบ



บริหารหน้าท้องให้แบนราบด้วยการทำท่าบริหารต่อไปนี้ โดยแต่ละท่าทำให้ครบสองเซ็ต เซ็ตละ 12 ครั้ง หรือเลือกบริหารท่าใดท่าหนึ่งโดยทำสองเซ็ต เซ็ตละ 12 ครั้งเช่นกัน พร้อมกับทำท่าบริหารสัดส่วนแบบอื่นที่คุณชอบ (ไม่ว่าจะเป็นการบริหารก้นให้กระชับ ขาให้สวยเพรียว หรือต้นแขนไม่หย่อนคล้อย)

ท่าบริหารเอวให้คอดสวย
นอนหงาย แล้วยกขาขวาขึ้นโดยให้ตาตุ่มของขาขวาวางอยู่บนเข่าซ้าย เหยียดมือซ้ายไปทางด้านหลังศีรษะ ส่วนมือขวาวางไว้กับพื้น
ยกไหล่ซ้ายขึ้นเหนือพื้นจนกระทั่งไหล่ของคุณแตะกับเข่าขวา แล้วลงนอนราบกับพื้นเหมือนเดิม
ทำซ้ำให้ครบหนึ่งเซ็ตสำหรับข้างนี้ แล้วทำสลับอีกข้าง

ท่าบริหารหน้าท้องให้แบนราบ
นอนหงายระนาบไปกับพื้น ไขว้ขาโดยวางส้นเท้าซ้ายทับบนหัวแม่เท้าขวาของคุณ ใช้มือซ้ายวางรองใต้คอ ส่วนมือขวาถือดัมเบลล์ยกขึ้นบนอากาศ\
ยกไหล่ขึ้นจากพื้นจนคุณรู้สึกว่ากล้ามเนื้อท้องส่วนล่างเกร็ง และค้างไว้ในท่านี้สักหนึ่งวินาที แล้วลงนอนราบ นับเป็นหนึ่งครั้ง


ลดห่วงยางรอบเอว บริหารเอวให้เพรียวบาง
นอนตะแคงขวาบนพื้น แล้วยืดขาทั้งสองข้างออกให้ตรงโดยเหยียดปลายนิ้วเท้าออกไป เกร็งก้นแล้วแขม่วหน้าท้องบริเวณสะดือเข้ามาจนชิดกับกระดูกสันหลัง
วางศีรษะไว้บนแขน ส่วนมือซ้ายวางไว้กับพื้นทางด้านหน้าของคุณ
เหยียดขาซ้ายของคุณให้ตรงแล้วยกขึ้นในแนวเดียวกับลำตัวจนคุณรู้สึกเกร็งบริเวณลำตัวด้านข้าง แล้วค้างไว้สักสองสามวินาที แล้วค่อยๆ ปล่อยลง


บริหารกล้ามเนื้อลำตัวทั้งหมด
หายใจเข้าลึกๆ ขณะทำท่ากายบริหารสไตล์พิลาทีสนี้ แล้วนอนหงายพร้อมงอเข่าโดยแยกออกจากกันให้เท่ากับความกว้างของช่วงสะโพก หายใจออกและพยายามเกร็งหน้าท้องให้เข้ามาจนชิดกับกระดูกสันหลังของคุณ ในขณะที่ยกขาขึ้นทีละข้างจนเข่าของคุณงอทำมุม 90 องศาเหนือสะโพกของคุณ
หายใจออกและยกศีรษะและไหล่ขึ้นเหนือพื้น ในขณะเดียวกันเหยียดมือขวาไปแตะเข่าซ้าย หายใจออกพร้อมเหยียดขาซ้ายออกจากตัวและค่อยๆ ลดลง
ทำสลับขาอีกข้างหนึ่ง

กระชับหน้าท้องตรงกลาง
นั่งตัวตรงพร้อมกับเหยียดขาและแขนทั้งสองออกไปด้านหน้าของคุณ
ค่อยๆ โน้มตัวลงมา (ในส่วนของกระดูกสันหลังแต่ละส่วน) จนถึงพื้น แล้วลดแขนทั้งสองข้างลงให้อยู่เหนือศรีษะ
หายใจออก แล้วยืดตัวขึ้นกลับเข้าสู่ท่านั่งเดิม




และท่าออกกำลังกายด้านล่างนี้ก็สามารถช่วยเพิ่มและลดส่วนต่างๆของร่างกายได้ สามารถเลือกออกกำลังกายตามที่ต้องการได้เลย







ช่วยบริหารหน้าท้องและลดไขมัน (ไม่ควรย่อเข่าลงต่ำเกินไป)











เสริมสร้างกล้ามเนื้อของหน้าท้องและด้านหลัง








บริหารเส้นหลังและการป้องกันกระดูกปากมดลูก





กระชับกล้ามเนื้อหน้าท้อง










ช่วยลดหน้าท้อง










เพิ่มความยืดหยุ่นให้ต้นขาและช่วยให้แขนแข็งแรง






             ลดไขมันหน้าท้องของสะโพก





ขอขอบคุณข้อมมูลดีจาก  thhttps://www.everydaymethailand.com/health/exericse/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1/5-best-moves-to-flatten-your-tummy-th


วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2559

เคล็ดลับลดหุ่น


1. จัดเต็มกับมื้อเช้า
ทานมื้อแรกของวันประมาณ10โมงเช้า ทานอะไรก็ได้ที่อยากทาน
ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่า ไก่ทอด ไส้กรอกอีสาน ฯลฯ

2. เบาลงในมื้อถัดไป
มื้อนี้จะทานประมาณบ่ายโมงครึง เวลานี้จะเลือกทานเมนูเบาๆลงหน่อยค่ะอาจจะเป็นก๋วยเตี๋ยว ไข่ตุ๋น แกงจืด ต้มยำ ยำแซ่บต่างๆ เกาเหลา แกงไตปลา แกงเหลือง ซุปไก่ ฯลฯ


3. งดอาหารหลังบ่าย3
ถ้าทาน2มื้อไปแล้ว ยังแอบหิว ช่วงนี้เป็นช่วงโปรโมชั่นค่ะสามารถหาอะไรเบาๆทานได้อีกหน่อย แต่ต้องควบคุมให้ทานพอหายหิวก็พอค่ะ


วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2559

8วิธีระงับความหิว

 
รับประทานใยอาหาร
 

มีหลักฐานมากมายค่ะที่ใยอาหารช่วยลดความหิวได้ ผักและผลไม้ ข้าวซ้อมมือ ธัญพืชซึ่งมีใยอาหารมากจะมีแคลอรี่ที่ต่ำ ร่วมกับมีน้ำในอาหารมาก ซึ่งจะช่วยให้คุณอิ่ม




ซุปใสระงับหิว

การรับประทานซุปใสจะช่วยให้รับประทานแคลอรี่โดยรวมได้น้อยลง แต่แนะนำว่าไม่ควรใช้ซุปข้นนะค่ะ ให้พยายามปรุงซุปแคลอรี่ต่ำและใยอาหารสูงด้วยค่ะ



สลัดผักก่อนอาหาร

มีการศึกษาค่ะที่ว่าคนที่รับประทานสลัดในปริมาตร 3 ถ้วยตวง (แคลอรี่ไม่เกิน 100กิโลแคลอรี่) ก่อนรับประทานอาหาร จะช่วยให้รับประทานแคลอรี่น้อยลงได้ 12% และเมื่อรับประทานสลัดผักในปริมาตร 1 ถ้วยตวงครึ่ง จะช่วยให้รับประทานแคลอรี่ได้น้อยลง 7% แนะนำให้ใช้ผักที่มีแคลอรี่น้อยทำสลัดนะค่ะ เช่น แครอท มะเขือเทศ ผักชี แตงกวา กระหล่ำปลี (แนะนำว่าไม่ควรใช้เครื่องปรุงที่มีแคลอรี่สูงนะค่ะ) ให้ระวังเรื่องน้ำสลัดด้วยค่ะ




ส้มลดความหิว

มีการวิจัยค่ะ ว่าผลไม้ที่มีใยอาหารชนิดละลายน้ำมากและแคลอรี่ต่ำนั้นช่วยให้อิ่มเร็วค่ะ




ดื่มนมไขมันต่ำ

นมมีโปรตีนอยู่ 2 ชนิดค่ะ คือ Whey (เวย์) กับ Casein (เคซีน) ในส่วนของโปรตีน Whey จะช่วยระงับความหิวได้ แต่ผึ้งแนะนำให้เลือกนมที่ไขมันต่ำนะค่ะ เช่นนมพร่องมันเนย หรือนมขาดมันเนย


รับประทานไขมันให้น้อย

แต่ไม่ใช่ตัดออก เมื่อเรารับประทานไขมัน จะมีการสร้างฮอร์โมนที่มีชื่อว่าเลปตินค่ะ ซึ่งเป็นข้อดีที่ว่าการรับประทานไขมันช่วยให้เราอิ่มได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้เรารับประทานไขมันได้ในปริมาณที่มากนะแนะนำให้เลือกไขมันไม่อิ่มตัวและไขมันปลาอยู่ ไขมันไม่อิ่มตัวและไขมันปลาช่วยให้เราอิ่มได้มากกว่าไขมันอิ่มตัวจากสัตว์อีกค่ะ



ถั่วเหลืองมีประโยชน์

ถั่วเหลืองให้ทั้งโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตค่ะ ซึ่งจะช่วยให้เราอ่ม ความจริง นมถั่วเหลืองก็เป็นอาหารว่างที่ดีในการทีจะช่วยให้เราอิ่มได้ด้วยค่ะ


เคี้ยวช้าๆ

ในการรับประทานอาหาร คุณต้องให้เวลาอย่างน้อย 20 นาทีในการเดินทางของสัญญาณและ ฮอร์โมนไปยังสมองจึงจะรู้สึก “อิ่ม”ค่ะ ถ้าคุณรับประทานเร็วเกินไป กว่าสัญญาณจะไปถึงสมอง กว่าจะรู้สึกอิ่ม คุณก็กินเข้าไป 3 จานเข้าไปแล้ว!! ดังนั้นค่ะ ให้เคี้ยวช้าๆ จะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มในขณะที่รับประทานอาหารไปด้วย






Credit:Lovefitt

5วิธีกินมื้อเย็น

        1. ไม่ควรงดอาหารมื้อเย็น

          แต่ควรเลือกทานอาหารเบา ๆ หรืออาหารที่ให้พลังงานน้อยที่สุด อย่างเช่น เน้นผักและผลไม้ ส่วนเนื้อสัตว์ติดไขมัน ของมัน ๆ ทอด ๆ ควรงดจะดีกว่านะคะและเวลาที่ควรทานคือหกโมงเย็นถึงหนึ่งทุ่ม ไม่ควรทานดึกกว่านี้






  2. หลังทานอาหารเย็นไม่ควรออกกำลังกายต่อทันที

ถ้าเราทานอาหารภายในเวลา 1-2 ชั่วโมง แล้วไปออกกำลังกายทันที อาจทำให้เราเกิดอาการจุกได้ ถ้าเป็นไปได้ควรเดินเรื่อย ๆ ไม่ต้องเร่ง เพราะเวลาเราเดินลำไส้จะมีการขยับตัว อาหารก็จะย่อยง่ายและยังเป็นการใช้พลังงานไปในตัวอีกด้วย เป็นแนวทางที่ดีในการปฏิบัติจะได้ไม่อ้วน
     


3. หลังอาหารเย็นไม่ควรอาบน้ำในทันที

เพราะเมื่อเราทานอาหาร ขณะที่อาหารกำลังย่อย กระเพาะต้องทำงาน เลือดต้องถูกไปหล่อเลี้ยงกระเพาะเพื่อช่วยในการย่อย ถ้าเราไปอาบน้ำทันทีหลังอาหาร ซึ่งโดยปกติแล้วมนุษย์เป็นสัตว์เลือดอุ่น เมื่อร่างกายโดนน้ำเย็น ๆ ก็จะทำให้เลือดจำเป็นต้องมาที่บริเวณผิวหนัง เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น ดังนั้นแล้วเลือดจึงถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งแน่นอนว่า มันต้องถูกแบ่งมาที่ผิวหนังก่อนเป็นอันดับแรก ทำให้เลือดส่งไปที่กระเพาะได้น้อย สิ่งที่เกิดขึ้นคือระบบการย่อยทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ท้องจะอืด แน่นท้อง จุก จึงควรเว้นอย่างน้อยที่สุด 30 นาที และทางที่ดีที่สุดต้องประมาณ 1 ชั่วโมง สำหรับอาหารที่ย่อยง่าย และ 2 ชั่วโมง ถ้าเรารับประทานอาหารที่ย่อยยาก


  4. หากต้องการลดความอ้วนด้วยให้ทานผักหรือผลไม้ในมื้อเย็น


ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก มื้อเย็นอาจทานเป็นผักผลไม้ และจะต้องไม่เลือกผลไม้ที่เป็นกรด เพราะขณะท้องว่างร่างกายจะมีกรดมากอยู่แล้ว และเลี่ยงการทานผักหรือผลไม้ดิบขณะท้องว่าง เพราะจะทำให้ท้องอืดได้ แนะนำว่าให้ทานผักสุก เช่น การลวก การต้ม แกงจืด หรือยำที่รสชาติไม่จัดมาก เช่น ยำแตงกวา ยำวุ้นเส้น ที่ไม่เผ็ดหรือเปรี้ยวเกินไป



 5. อาหารมื้อเย็นที่ควรหลีกเลี่ยง

ได้แก่ อาหารที่ย่อยยาก เช่น ของมัน ของทอด เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง ถ้าต้องทานควรทานในปริมาณเล็กน้อย และไม่ควรทานอาหารที่เป็นกรดมาก เพราะอาจทำให้เกิดภาวะกรดไหลย้อนหลอดอาหารได้


         

วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559

3 อาหารคลีนเมนูไข่


เมนูคลีนในวันนี้รับรองได้เลยว่าเห็นแค่ภาพก็เด็ดแล้ว และยังน่าทานมากกก 
เป็นเมนูอาหารเพื่อคนอ้วนที่อยากลดน้ำ แต่ถ้าใครอยากทานก็ทานได้ทั้งนั้นค่ะ


มาพบกับเมนูแรกกันเลยดีกว่าา....
.
.
.



ไข่โอ่ง!!

          ไอเดียอาหารคลีนเมนูไข่ที่เก๋ไม่เบาสำหรับเมนูไข่โอ่งดาวดึงส์สูตรจาก คุณ iamrabbiy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ทำง่าย ๆ แค่จับไข่ตอกลงในขนมปังฝรั่งเศส ตามด้วยชีสไขมันต่ำ พออบเสร็จแล้วก็โรยผงออริกาโน่ พริกไทยดำบด ตบท้ายด้วยเบคอนอบแห้ง เพียงเท่านี้ก็หม่ำได้เลย 

ส่วนผสมของไข่โอ่ง

          1.
 ขนมปังก้อนแบบฝรั่งเศส (โฮลวีท) 2 ก้อน 
          2.
 ไข่ไก่ 2 ฟอง
          3.
 ชีสไขมันต่ำ 1 แผ่น (Less Fat)
          4.
 ผงออริกาโน่
          5.
 พริกไทยดำบด 
          
6. เบคอนอบแห้ง

วิธีทำไข่โอ่ง

          
 1. ผ่าด้านบนของขนมปังฝรั่งเศสออกเพื่อใช้เป็นฝาถ้วยแล้วควักเนื้อขนมปังออกมาให้เป็นถ้วย 

          
 2. ตอกไข่ไก่ใส่ลงไป วางชีสไขมันต่ำลงไป (ใช้ถ้วยละครึ่งแผ่น)

          
 3. นำเข้าเตาอบใช้เวลาประมาณ 8 นาที นำออกมาโรยผงออริกาโน่ พริกไทยดำบด และเบคอนอบแห้ง พร้อมเสิร์ฟ


เมนูที่สอง...
.
.



เครปไข่เจียวทูน่าา!!


  เครปไข่เจียวทูน่าสูตรจาก เฟซบุ๊ก Eat for Health by JJ แปลงร่างไข่เจียวแผ่นบางให้เป็นเครปชั้น แต่ละชั้นผสมผสานไส้ทูน่า แครอท ข้าวโพด ถั่วลันเตา และมะเขือเทศ ทานกับข้าวสวย หรือกินเล่นเป็นอาหารว่างก็เพลินดีค่ะ


ส่วนผสมไส้ทูน่า


           ทูน่ากระป๋องในน้ำแร่ 1 กระป๋อง (บีบน้ำออก เอาเฉพาะเนื้อ)

           ผักตามชอบ ได้แก่ แครอท ข้าวโพด และถั่วลันเตา
           มะเขือเทศท้อสับ 1 ถ้วย 
           น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา



                                                               ส่วนผสมเครปไข่เจียว


        ไข่ไก่ 3 ฟอง

           ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
           พริกไทยดำป่นเล็กน้อย 
           น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา


วิธีทำไส้ทูน่า

 1. ตั้งกระทะพอร้อน ใส่น้ำมันมะกอก พอร้อนใส่มะเขือเทศสับ หรือซอสมะเขือเทศลงไปผัดพอร้อน

 2. ใส่ผักต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ ผัดให้เข้ากัน


                                                       3. ใส่ทูน่าลงไปผัดให้เข้ากัน ตักพักไว้ให้คลายความร้อน


วิธีทำเครปไข่เจียว


        1. ตอกไข่ไก่ใส่ชาม ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและพริกไทยดำป่นเล็กน้อย ตีให้เข้ากัน (แบบทำไข่เจียวเลยค่ะ)



           2. ตั้งกระทะเทฟลอน ใส่น้ำมันมะกอกลงไป เกลี่ยให้ทั่ว



           3. ใส่ไข่ไก่ที่ผสมแล้ว เอียงกระทะให้ไข่ไก่กระจายเป็นแผ่น ๆ ใช้ไฟอ่อน รอให้ไข่สุก (สังเกตที่ขอบกระทะไข่จะล่อนออกค่ะ) ตักขึ้นพักไว้ ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ จะได้ไข่แผ่นประมาณ 4-5 แผ่น แล้วแต่ขนาดกระทะ



           4. วางไส้ทูน่าลงบนไข่แผ่น 1 แผ่น เกลี่ยให้ทั่วทั้งแผ่น วางทับด้วยไข่อีก 1 แผ่น ทำไปเรื่อย ๆ จนได้ชั้นตามที่ต้องการ และใช้มีดตัดเป็นชิ้นตามต้องการ 


เมนูที่สาม...


ไข่เจียวพิซซ่าา!!



  พิซซ่าไข่เจียวสูตรจาก เฟซบุ๊ก Eat for Health by JJ เนรมิตไข่เจียวแบบบ้าน ๆ ให้กลายเป็นแผ่นพิซซ่า โรยหน้าด้วยเนื้อปลาแซลมอน เห็ด มะเขือเทศ บรอกโคลี และชีส อบเสร็จแล้วหั่นเป็นชิ้นสามเหลี่ยมดึงขึ้นมาชีสนี่ยืดเลยจ้า 

ส่วนผสมไข่เจียวพิซซ่า

          
 ไข่ไก่ 3 ฟอง
          
 ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม 1/2 ช้อนชา
          
 พริกไทยดำบด
          
 เนื้อปลาแซลมอนหรือปลาทูน่ากระป๋อง
          
 เห็ดชนิดใดก็ได้ตามชอบ
          
 มะเขือเทศหั่นเป็นแว่น
          
 บรอกโคลีหรือผักชนิดอื่นตามชอบ 
          
 ชีสชนิดไขมันต่ำ 1 แผ่น 
          
 ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ 


วิธีทำไข่เจียวพิซซ่า

           1. ตอกไข่ไก่ใส่ชาม ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว และพริกไทยดำ


           2. แบ่งปลาแซลมอน และผักต่าง ๆ มาหนึ่งส่วน แล้วใส่ไปในชามไข่ไก่ ตีผสมให้เข้ากัน

           3. เทใส่ภาชนะสำหรับอบ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส อบประมาณ 10 นาที

           4. นำไข่ที่อบแล้วออกมาทาหน้าด้วยซอสมะเขือเทศ และตกแต่งหน้าด้วยเนื้อปลาและผักที่เหลือ โรยทับด้วยชีส นำเข้าเตาอบต่ออีก 10 นาที (หากชอบหน้าเกรียม ให้อบนานขึ้นได้ค่ะ)



ถึงจะเป็นอาหารคลีนแต่ก็ควรออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกันด้วยนะคะ    

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://cooking.kapook.com/view130633.html